1.ปลั๊กไฟในเกาหลีเป็นแบบรูกลม(บางชนิดจะมีหลุมลงลึก) จึงควรใช้อุปกรณ์ขากลม หากอุปกรณ์ขาแบนจะใช้ไม่ได้เพราะขาแบนจะใหญ่กว่ารูกลมของปลั๊กไฟ วิธีการง่าย ๆ หากอุปกรณ์ที่นำไปเป็นขาแบน คือยืมอะแดปเตอร์จากโรงแรม(เสียเงินมัดจำ) หรือถ้าคุณต่อสายไฟเป็นสามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าขากลมที่เสียแล้วตัดสายมาแล้วซื้อปลั๊กไฟสามตามาต่อ(ยุ่งเหมือนกันแต่สะดวก) บางโรงแรมจะมีปลั๊กแบบหลายตาให้ (อุปกรณ์ชาร์ทถ่านไฟแบบขากลมของไทยที่เป็นสินค้าจีนหรือที่ชาร์ทโทรศัพท์ สามารถนำไปใช้ได้)
2. เรามักจะได้ยินว่าเกาหลีไม่มีพนักงานบริการมากนัก จึงมีช่างภาพที่คอยถ่ายภาพและคอยบริการยกกระเป๋า รวมถึงช่วยบริการอาหาร แล้วนำภาพมาขายให้ในวันสุดท้าย (ราคาค่อนข้างแพงภาพละ 100-200 บาท โดยเฉลี่ย 150 บาท) โดยรวมมาเป็นเล่ม ตกคนละ 2,000 – 4,000 บาท เพราะเค้าถ่ายหลายซ็อตทั้งที่เราอนุญาตและไม่รู้ตัว หากรู้สึกว่าเยอะไปสามารถเลือกซื้อเป็นภาพได้ มิเช่นนั้นกระเป๋าแฟบแน่ ถ้าซื้อยกเล่ม(ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ซื้อมากซื้อน้อยหรือซื้อยกเล่ม)
เรื่องภาพถ่ายขอแนะนำให้เลือกเพียงพอประมาณ แม้ช่างภาพจะทำมาเป็นเล่มให้เรา ก็ขอเลือกเป็นบางภาพได้สำหรับคนไม่อยากจ่ายแพง(มาก) พอเป็นน้ำใจ เพราะอัลบั้มที่ให้สามารถเลือกเอาเป็นภาพได้
คำแนะนำ การใช้บริการถ่ายภาพ ให้เลือกภาพตามที่คุณพอใจ พอรักษาน้ำใจ คนละ 5-10 ภาพ (คิดเป็นเงินคนละ 600-1500 บาท) อย่าเลือกยกเล่ม
3. สินค้าต่าง ๆ สามารถซื้อได้จากเซเว่นหรือแฟมิลี่มาร์ทหรือซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป ส่วนซุปเปอร์มาร์เกตที่ทัวร์นำไปละลายเงินวอนให้ซื้อบางส่วน เช่น ป๊อกกี้อัลมอนต์ของลอตเต้ เพื่อใช้สิทธิ์แพกหีบห่อ ส่วนซินราเมนหรือสาหร่าย กระเป๋าสามารถซื้อได้จากตลาดเมียงดองที่ซื้อเครื่องสำอาง ETUDE อีทูดี้ และสกินฟู๊ด(ทาง4แยก) ชินราเมน 5 ห่อ 2990 วอน (ในเซเว่นคิดเป็นห่อ 600-670 วอน) เหล้าพื้นเมืองสามารถซื้อในซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป สาหร่ายซื้อได้ที่ในตลาดเมียงดง ราคามีหลายชนิด อย่ากลัวคำขู่ว่าไม่กรอบ เพราะมีวันผลิต วันหมดอายุ ลองซื้อมาแล้วกรอบดี(ดูวันผลิตไม่เกิน 2 เดือน) ร้านทางเข้าตลาดบริเวณตรงกับประตูข้างของไปรษณีย์กลาง ร้านกระเป๋า 10000 วอน มีหลายรูปแบบ ส่วนที่ 30000-40000 วอนสามารถต่อรองราคาได้
การชมสวนสตอร์เบอร์รี่และการซื้อสตอร์เบอร์รี่แนะนำให้ซื้อได้เพราะลูกใหญ่ แต่ต้องทำใจเพราะเท่าที่สอบถามหลายทริปโดนคล้ายกันคือเวลาชิมลูกใหญ่แบบสตอร์เบอเร่อ แต่ถึงเมืองไทยลูกเล็กกว่าที่เห็น
ราคาสาหร่ายมีหลายราคา หลายขนาด แพค 3 ซอง มีหลายราคาในซุปเปอร์มาร์เกตในซอยตลาดเมียงดงตรงประตูข้างของไปรษณีย์กลาง แพค 18 ซอง (ขอแถมเพิ่มอีก 2 ซอง) 9000 วอน แพค 40 ซอง(บาง)7000 วอน ต่อรองได้
เครื่องสำอางอีทูดี้ ETUDE มีอีกร้านตรงอุโมงค์ข้ามถนนหน้าไปรษณีย์กลางเกาหลีในอุโมงค์มีสินค้าหลายชนิด น่าลองเดินไปดูไม่ต้องกลัวหลงเพราะทางลงอยู่หน้าไปรษณีย์
ชาโสมเกาหลีสามารถซื้อในร้านซุปเปอร์สุดท้ายที่ละลายเงินวอน กล่องเล็ก 50 ซอง 7000 วอน ซื้อ 5 แถม 1 (ซื้อที่ร้านสุดท้ายอาจแพง แต่มีราคาบอก)
เหล้าเกาหลี ปัจจุบันมีแบบขวดพลาสติก (แบบขวดกั๊กหรือครึ่งแบน) ราคาประมาณ 700-1000 วอน ส่วนแบบเป็นขวด 3000 วอน ทั้งตราคางคกและตราไม้ไผ่
ของฝากประเภทพวงกุญแจ กรรไกรตัดเล็บ ที่คล้องโทรศัพท์มือถือ ตุ๊กตา(แบบตุ๊กตาตัวเล็กสายเล็ก ๆ) ขอแนะนำซื้อที่ร้านที่เรารับประทานหมูย่างเกาหลี Pork Kalbi (ร้านนี้อร่อยจริง) ตรงทางเข้าร้านจะมีร้านขายของที่ระลึกประเภทนี้ ราคาพวกกุญแจ 8000 วอน กรรไกรตัดเล็บ 9000-10000 วอน มี 2 แบบ สายคล้องโทรศัพท์ 7000 วอน ซื้อรวม 40000-50000 วอน แล้วขอลด 1000 ถึง 2000 วอน ซื้อมากกว่านี้อาจขอแถมหรือขอลดเพิ่มได้เล็กน้อย หากไปซื้อร้านไก่ตุ๋นโสม แต่ละชิ้นราคาจะเพิ่ม 1000-2000 วอน
คำแนะนำ การซื้อสินค้าต่าง ๆ สามารถหาซื้อได้ในซุปเปอร์มาร์เกต ร้านเซเว่น หรือแฟมิลี่มาร์ทในเกาหลี เพราะสะดวก มีราคาบอก ไม่ต้องห่วงเรื่องโดนหลอก โดยร้านที่อยู่ในเส้นทางคือทางเข้าตลาดเมียงดงที่รถจะจอดส่งที่ไปรษณีย์กลางเกาหลี เข้าซอยสักเล็กน้อยอยู่ทางซ้ายมือ ตรงกับประตูข้างไปรษณีย์กลาง และเก็บไปซื้อป๊อกกี้เกาหลี ตราลอตเต้ไส้ชอคโกแลตเคลือบอัลมอนต์ Lotte PEPERO กล่องธรรมดา กล่องละ 1000 วอนที่ ซุปเปอร์มาร์เกตละลายเงินวอน เพื่อแพ็คของใส่ลัง ชาโสม หากไม่ซื้อที่ร้านโสม สามารถซื้อในซุปเปอร์มาร์เกตร้านสุดท้ายได้
ขอย้ำ การซื้อของอย่ากลัวคำพูดไกด์ว่าสาหร่ายจะไม่กรอบ เพราะสามารถดูวันผลิตหรือวันหมดอายุได้ และสินค้าบางอย่างเช่นเหล้าเกาหลี ซื้อสะสมได้ ไม่ต้องรอซุปเปอร์มาเกตสุดท้าย เพราะแพงกว่า สินค้าน้ำหรือครีมต้องโหลดใส่ท้องเครื่องบิน
4. การซื้อโสมหรือยาหรือเครื่องสำอาง(ยกเว้น ETUDEE และ SKIN FOOD) ให้รวมตัวกันซื้อพร้อม ๆ กัน อย่าแยกกันซื้อ รวมกันซื้อ ขอของแถม ตามความเหมาะสม
5. การแลกเงินวอนมีหลายร้าน เรตจะถูกกว่าธนาคาร เช่น ซุปเปอร์ริท, ร้านเซี๊ยะ สามารถหาได้ในกูเกิล ควรเป็นร้านที่ไว้ใจได้ หรือกันไว้แลกที่สนามบินเกาหลีส่วนหนึ่ง หากแลกกับไกด์ทางเกาหลีเรต 1 บาท ได้เพียง 30 วอน (1 วอน เท่ากับ 0.0333 บาท ซึ่งหากคิดเป็นหมื่นบาทแล้วมีความแตกต่างกว่ากันประมาณ 1000 บาท) แทนที่ 1 หมื่นบาทจะได้ 350000 วอน โดยประมาณ เหลือ 300000 วอน หายไป 5000 วอน ประมาณ 150 บาท ต่อหมื่นบาทไทย
6. ห้องน้ำในโรงแรมเกาหลีเหมือนญี่ปุ่น คือบางโรงแรมจะมีระบบล้างอัตโนมัติ แต่เป็นภาษาเกาหลี มีแบบล้างหน้าเป็นรูปนำกับคน และแบบล้างก้นเป็นรูปน้ำพุ และยังมีระบบปรับอุณหภูมิฝารอง ระบบน้ำกดฉีกตามปุ่ม ถ้าจะให้หยุดบางที่จะเป็นระบบอัตโนมัติ บางที่ต้องกดปุ่มรูปสี่เหลี่ยม
7. ชา กาแฟ ที่วางอยู่กับถ้วยกาแฟ เก็บกลับมาได้หมดเหมือนโรงแรมทั่วไปทุกประเทศ
ส่วนสบู่ ยาสีฟัน แบบบรรจุขวดที่อยู่ในห้องน้ำสามารถใช้และเก็บกลับมาได้ ส่วนที่วางนอกห้องน้ำให้ดูก่อนว่าถ้ามีในห้องน้ำแล้ว ของนอกห้องน้ำมักต้องเสียเงินเพิ่ม กระดาษทิชชูในห้องน้ำถ้าจะนำไปใช้สามารถหยิบไปได้ บางโรมแรมมีแปรงสีฟัน ยาสีฟัน และมีดโกนวางนอกห้องน้ำ ใครเผลอเก็บมาเป็นต้องเสียค่าแปรงสีฟันยาสีฟัน เพราะไม่สังเกตว่ามีราคาอยู่ในบิล
การดูโทรทัศน์ จะมีช่องที่เสียเงินบางช่อง
ที่ประทับใจคือน้ำแร่ของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ (ฟรี) เพราะทำมาจากหิมะ ตรงตามความมุ่งหมายของเราที่จะเอาหิมะใส่ขวดกลับมาเป็นน้ำก็ยังดี
เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย หากช่วงอากาศหนาว ขอแนะนำให้ใส่ลองจอห์น ช่วงหิมะลงควรใช้แบบหนา(750-1000) แต่หากช่วงเดือนมีนาคม ลองจอห์นบาง(350-550 บาท) พอเอาอยู่ พร้อมเสื้อขนเป็ดขนแกะ ถุงมือ(250บาท) หมวกอีกสักใบใส่คลุมหัว แนะนำที่แพลตตินั่มประตูน้ำ ชั้น 3
ขอให้เที่ยวให้สนุก
บทความ ทัวร์เกาหลี
เตรียมตัวทัวร์เกาหลี การท่องเที่ยวเกาหลีให้มีความสุข สนุกกับซื้อของฝากจากเกาหลี
No comments:
Post a Comment